ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อัญชะลี ไพรีรัก"
บรรทัด 14: | บรรทัด 14: | ||
จนกระทั่งในต้นปี [[พ.ศ. 2549]] ที่กลุ่ม[[พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย]]ได้เริ่มต้น[[การขับไล่ ทักษิณ ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี|การขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร]] อย่างจริงจังแล้ว อัญชะลีจึงได้เข้าร่วมและได้ร่วมจัดรายการบนเวทีและใน[[เมืองไทยรายสัปดาห์|รายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร คอนเสิร์ตการเมือง]] คู่กับ[[ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที]] ในรายการชื่อ "ติดดาบปลายปืน" แต่มิได้เป็นพนักงานใน[[หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ|เครือผู้จัดการ]]แต่อย่างใด |
จนกระทั่งในต้นปี [[พ.ศ. 2549]] ที่กลุ่ม[[พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย]]ได้เริ่มต้น[[การขับไล่ ทักษิณ ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี|การขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร]] อย่างจริงจังแล้ว อัญชะลีจึงได้เข้าร่วมและได้ร่วมจัดรายการบนเวทีและใน[[เมืองไทยรายสัปดาห์|รายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร คอนเสิร์ตการเมือง]] คู่กับ[[ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที]] ในรายการชื่อ "ติดดาบปลายปืน" แต่มิได้เป็นพนักงานใน[[หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ|เครือผู้จัดการ]]แต่อย่างใด |
||
หลังการ[[รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549|รัฐประหาร]] ได้เดินทางไปเรียนต่อที่[[ประเทศออสเตรเลีย]]ได้ระยะหนึ่ง จึงเดินทางกลับมา จากนั้นใน[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2550|การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550]] อัญชลีได้ลงสมัครรับเลือกตั้งใน |
หลังการ[[รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549|รัฐประหาร]] ได้เดินทางไปเรียนต่อที่[[ประเทศออสเตรเลีย]]ได้ระยะหนึ่ง จึงเดินทางกลับมา จากนั้นใน[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2550|การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550]] อัญชลีได้ลงสมัครรับเลือกตั้งใน จังหวัดสมุทรปราการ สังกัด[[พรรคเพื่อแผ่นดิน]] อันเนื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีกับแกนนำพรรค แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง |
||
ใน[[การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2551]] อัญชะลีได้กลับมาร่วมชุมนุมอีกครั้ง โดยเป็นผู้จัดรายการเล่าข่าวตอนเช้าบนเวทีคู่กับ[[กมลพร วรกุล]] ภายหลังการชุมนุมยุติลงก็ได้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการเคาะข่าวริมโขงและแขกรับเชิญรายการสภาท่าพระอาทิตย์ทุกวันจันทร์และศุกร์ และมีรายการประจำ ชื่อ "จับตาประเทศไทย" ออกอากาศทุกคืน[[วันอาทิตย์]] 20.30 - 21.00 น.ทาง [[เอเอสทีวี]] เป็นรายการเล่าข่าวทั่วไป |
ใน[[การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2551]] อัญชะลีได้กลับมาร่วมชุมนุมอีกครั้ง โดยเป็นผู้จัดรายการเล่าข่าวตอนเช้าบนเวทีคู่กับ[[กมลพร วรกุล]] ภายหลังการชุมนุมยุติลงก็ได้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการเคาะข่าวริมโขงและแขกรับเชิญรายการสภาท่าพระอาทิตย์ทุกวันจันทร์และศุกร์ และมีรายการประจำ ชื่อ "จับตาประเทศไทย" ออกอากาศทุกคืน[[วันอาทิตย์]] 20.30 - 21.00 น.ทาง [[เอเอสทีวี]] เป็นรายการเล่าข่าวทั่วไป |
||
บรรทัด 20: | บรรทัด 20: | ||
ต่อมา อัญชะลีได้ยุติรายการทั้งหมดทางเอเอสทีวี และสื่อต่าง ๆ ในเครือผู้จัดการหมดแล้ว โดยมีเสียงร่ำลือกระแสหนึ่งกล่าวว่า ได้ออกไปทำงานส่วนตัว และเป็นเลขานุการให้กับ นาย[[จุติ ไกรฤกษ์]] รัฐมนตรีว่าการ[[กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร]] <ref>[http://www.thaiindexnews.com/2011/02/19.html ทำไม "ม็อบแดง" เติบโต ทำไม "ม็อบเหลือง" ถดถอย จับตา 19 ก.พ. "สึนามิแดง" มาแล้ว]</ref> ส่วนอีกกระแสหนึ่งกล่าวว่า ได้เป็นบรรณาธิการให้กับนิตยสารท่องเที่ยว<ref>[http://onknow.blogspot.com/2011/02/19-2554.html ทำไม ปอง อัญชะลี หายไปจากเวทีพันธมิตร (19 ก.พ.2554)]</ref> |
ต่อมา อัญชะลีได้ยุติรายการทั้งหมดทางเอเอสทีวี และสื่อต่าง ๆ ในเครือผู้จัดการหมดแล้ว โดยมีเสียงร่ำลือกระแสหนึ่งกล่าวว่า ได้ออกไปทำงานส่วนตัว และเป็นเลขานุการให้กับ นาย[[จุติ ไกรฤกษ์]] รัฐมนตรีว่าการ[[กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร]] <ref>[http://www.thaiindexnews.com/2011/02/19.html ทำไม "ม็อบแดง" เติบโต ทำไม "ม็อบเหลือง" ถดถอย จับตา 19 ก.พ. "สึนามิแดง" มาแล้ว]</ref> ส่วนอีกกระแสหนึ่งกล่าวว่า ได้เป็นบรรณาธิการให้กับนิตยสารท่องเที่ยว<ref>[http://onknow.blogspot.com/2011/02/19-2554.html ทำไม ปอง อัญชะลี หายไปจากเวทีพันธมิตร (19 ก.พ.2554)]</ref> |
||
ปัจจุบัน อัญชะลีเป็นผู้จัดรายการ |
ปัจจุบัน อัญชะลีเป็นผู้จัดรายการ "ร้อยข่าวบลูสกาย" และ"ร้อยข่าวสุดสัปดาห์" ทาง[[บลูสกายแชนแนล]] |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 07:50, 14 พฤษภาคม 2556
อัญชะลี ไพรีรัก [1] (25 ตุลาคม พ.ศ. 2505 - ) อดีตผู้ประกาศข่าวทางช่อง 7 มีบทบาททั้งในการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2551 และเมื่อปี พ.ศ. 2549 โดยเฉพาะเมื่อปี พ.ศ. 2551 เป็นผู้จัดรายการเล่าข่าวยามเช้าบนเวทีปราศรัย
ประวัติ
อัญชะลี ไพรีรัก เกิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2505 ที่อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน มีชื่อเล่นว่า "ปอง" จบการศึกษาจากโรงเรียนสตรีสมุทรปราการ และโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง ปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เริ่มต้นชีวิตการทำงานจากการเป็นนักข่าวทำข่าวเศรษฐกิจและข่าวทั่วไป เช่น ข่าวประกวดนางงาม ประกวดต้นไม้ จนถึงประกวดสุนัข ให้แก่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ จากนั้นเป็นผู้สื่อข่าวการตลาดหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และกรุงเทพธุรกิจสุดสัปดาห์ ควบคู่กับการอ่านข่าวหุ้นกับสุทธิชัย หยุ่น ก่อนจะออกจากเครือเนชั่น เข้าสู่วงการวิทยุกับไอเอ็นเอ็น ก่อนจะย้ายไปทำข่าวโทรทัศน์ด้วยการเป็นผู้ประกาศข่าวทางช่อง 7
ในปี พ.ศ. 2539 ได้เป็นพิธีกรแทนบุญยอด สุขถิ่นไทย ทางรายการ "กู๊ด มอร์นิ่ง บางกอก" ที่ลาหยุดไปเนื่องจากป่วย 2 วัน
อัญชะลี ไพรีรักเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยความเป็นนักจัดรายการวิทยุที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างตรงไป ตรงมา และมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ซึ่งในตอนนั้นอัญชะลีจัดรายการวิทยุอยู่ที่คลื่น F.M. 96.5 MHz รายการ "จับชีพจรข่าว"
ต่อมาได้ถูกยุติการทำรายการ เนื่องจากถูกแทรกแซง จึงได้รับการเชื้อเชิญจากนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เจ้าของธุรกิจทีพีไอ ให้มาทำวิทยุคลื่นประชาธิปไตย F.M. 92.25 MHz โดยเป็นผู้ริเริ่ม ทั้งวางผังและจัดรายการเองทั้งหมด แต่ต่อมาก็ถูกแทรกแซงอีกครั้ง จนต้องลาออกมา
จนกระทั่งในต้นปี พ.ศ. 2549 ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เริ่มต้นการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างจริงจังแล้ว อัญชะลีจึงได้เข้าร่วมและได้ร่วมจัดรายการบนเวทีและในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร คอนเสิร์ตการเมือง คู่กับยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที ในรายการชื่อ "ติดดาบปลายปืน" แต่มิได้เป็นพนักงานในเครือผู้จัดการแต่อย่างใด
หลังการรัฐประหาร ได้เดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลียได้ระยะหนึ่ง จึงเดินทางกลับมา จากนั้นในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 อัญชลีได้ลงสมัครรับเลือกตั้งใน จังหวัดสมุทรปราการ สังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน อันเนื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีกับแกนนำพรรค แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง
ในการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2551 อัญชะลีได้กลับมาร่วมชุมนุมอีกครั้ง โดยเป็นผู้จัดรายการเล่าข่าวตอนเช้าบนเวทีคู่กับกมลพร วรกุล ภายหลังการชุมนุมยุติลงก็ได้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการเคาะข่าวริมโขงและแขกรับเชิญรายการสภาท่าพระอาทิตย์ทุกวันจันทร์และศุกร์ และมีรายการประจำ ชื่อ "จับตาประเทศไทย" ออกอากาศทุกคืนวันอาทิตย์ 20.30 - 21.00 น.ทาง เอเอสทีวี เป็นรายการเล่าข่าวทั่วไป
ต่อมา อัญชะลีได้ยุติรายการทั้งหมดทางเอเอสทีวี และสื่อต่าง ๆ ในเครือผู้จัดการหมดแล้ว โดยมีเสียงร่ำลือกระแสหนึ่งกล่าวว่า ได้ออกไปทำงานส่วนตัว และเป็นเลขานุการให้กับ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร [2] ส่วนอีกกระแสหนึ่งกล่าวว่า ได้เป็นบรรณาธิการให้กับนิตยสารท่องเที่ยว[3]
ปัจจุบัน อัญชะลีเป็นผู้จัดรายการ "ร้อยข่าวบลูสกาย" และ"ร้อยข่าวสุดสัปดาห์" ทางบลูสกายแชนแนล
อ้างอิง
- ↑ เดิมชื่อ อัญชลี ไพรีรัก ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อตัวเป็น "อัญชะลี" เมื่อ พ.ศ. 2552 ตามความเชื่อเรื่องการเปลี่ยนชื่อเพื่อเสริมดวง
- ↑ ทำไม "ม็อบแดง" เติบโต ทำไม "ม็อบเหลือง" ถดถอย จับตา 19 ก.พ. "สึนามิแดง" มาแล้ว
- ↑ ทำไม ปอง อัญชะลี หายไปจากเวทีพันธมิตร (19 ก.พ.2554)
แหล่งข้อมูลอื่น