| | | | |
| 9786164992054
|
|
240
pp
| 3.70
| 421
| unknown
| Apr 2021
|
liked it
| |
"โลกใบนี้จะมหัศจรรย์และสวยงามขึ้นราวกับมีเวทมนตร์" (หน้า 227)
เรารู้จัก Jedit ครั้งแรกจากทวิตเตอร์ค่ะ (https://twitter.com/9Jedit) ภาพวาดของเขาสวยมาก ส
"โลกใบนี้จะมหัศจรรย์และสวยงามขึ้นราวกับมีเวทมนตร์" (หน้า 227)
เรารู้จัก Jedit ครั้งแรกจากทวิตเตอร์ค่ะ (https://twitter.com/9Jedit) ภาพวาดของเขาสวยมาก สีสดใส เรื่องราวในภาพดูเพ้อฝัน ซึ่งเป็นแนวงานที่เราชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เราติดตามผลงานของเขามาได้สักระยะหนึ่งแล้ว จนกระทั่งรู้ว่า สำนักพิมพ์ Mugunghwa ได้ซื้อลิขสิทธิ์หนังสือที่เขาเขียนมาแปลไทย จึงไม่รอช้าที่จะรีบสอยมาครอบครอง :)
เล่มนี้เป็นหนังสือรวมภาพวาดและคำอธิบายภาพสั้นๆ ของ Jedit ค่ะ เป็นส่วนหนึ่งของ 365 days of daydream Project ของเขาเอง
ในเล่มจะมีภาพวาดเยอะมากกกกก (ซึ่งบางภาพก็มีในทวิตเตอร์ของเขาค่ะ) ทั้งหมดเป็นภาพแนวเพ้อฝันแฟนตาซี สีสันสดใส เล่าเรื่องหลายฤดู ทั้งกลางวันกลางคืน มีทั้งภาพแนวร่าเริงรื่นรมย์ อบอุ่นละมุนละไม แต่ก็มีภาพที่เหงาๆ ซึมๆ หน่อยๆ เรารู้สึกว่าบางภาพดูเหมือนจะสื่อถึงอะไรบางอย่าง เหมือนพยายามบอกเราว่า "ลองตีความภาพพวกนี้ดูสิ" เลยล่ะค่ะ ส่วนข้อความประกอบภาพจะค่อนข้างสั้นค่ะ เป็นข้อความเชิงให้กำลังใจและให้รอยยิ้มกับผู้อ่าน :)
เป็นหนังสือเหมาะกับสายสะสมหนังสือภาพค่ะ เพราะสำนักพิมพ์ทำรูปเล่มออกมาดีทีเดียว เป็นปกแข็งที่แข็งแรง เปิดอ้าได้ 180 องศา ภาพในเล่มก็สีสดโดนใจมาก
...more
|
Notes are private!
|
|
1
| | |
Apr 29, 2021
| |
Hardcover
| |
| | | | |
| 9786167422817
|
|
232
pp
| 3.30
| 10
| unknown
| Sep 2020
|
liked it
| |
เรื่องแรก : Lost
เรื่องและภาพ : Manasawii
สำนักพิมพ์ Fullstop Book
เรื่องราวของหญิงสาวคนนึงที่ทำอะไรบางอย่างหายไประหว่างทาง เธอจึงใช้ชีวิตอย่างคนหลงทาง แ
เรื่องแรก : Lost
เรื่องและภาพ : Manasawii
สำนักพิมพ์ Fullstop Book
เรื่องราวของหญิงสาวคนนึงที่ทำอะไรบางอย่างหายไประหว่างทาง เธอจึงใช้ชีวิตอย่างคนหลงทาง แล้วก็หลงเข้าไปอยู่ในอีกโลกที่ไม่คุ้นเคย โลกที่เต็มไปด้วยเมืองที่มืดมิดไร้แสงไฟ เธอได้พบกับ "ปุกปุย" สิ่งมีชีวิตประหลาด พร้อมกับภารกิจตามหานางเงือกที่หายไป เพื่อนำแสงสว่างกลับมายังเมืองแห่งนี้
เราชอบเรื่องนี้ อ่านเรื่องนี้แล้วชอบมากๆ
โดยเฉพาะประเด็นหลักที่ผู้เขียนต้องการสื่อ คือเปิดเรื่องมาด้วยการตั้งคำถามกับตัวเองว่า ระหว่างเติบโต เราได้ทำอะไรบางอย่างหายไปบ้างรึเปล่า ไม่ว่าจะคน สิ่งของ หรือแม้แต่ความเป็นตัวของตัวเอง หรือคุณค่าของตัวเอง ซึ่งเราเชื่อว่าหลายๆ คนคงตอบในใจแล้วว่า "ใช่" เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เราเลยรู้สึกอินกับเรื่องทำนองนี้เป็นพิเศษ
การผจญภัยเล็กๆ ในห้วงคำนึงของตัวละคร ทำให้ตัวละครได้เรียนรู้และได้ค้นพบคุณค่าและความเป็นตัวของตัวเองที่บังเอิญทำหายไประหว่างทางที่เติบโต ทำให้เธอหวนกลับไปนึกถึงความสุขเมื่อวาน ก่อนที่จะดึงภาพความสุขเหล่านั้นกลับมาเป็นปัจจุบัน ราวกับเรียกตัวตนที่หายไปตามกาลเวลาให้กลับมาอีกครั้ง
สรุปคือ ชอบทุกอย่างในเรื่องนี้ค่ะ ตั้งแต่เปิดเรื่องยันจบเรื่อง ชอบพล็อตเรื่อง ชอบลายเส้น ชอบการเล่นสีที่ตลอดเรื่องเป็นภาพขาวดำก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีสันอลังการ ตอนจบเรื่องแอบขนลุกนิดหน่อยกับความจริงบางอย่างที่เฉลยออกมา 5555
_____________
เรื่องสอง : Found
เรื่องและภาพ : 19.04
สำนักพิมพ์ Fullstop Book
เรื่องราวของ "โอเชี่ยน" เด็กชายตัวน้อยที่อาศัยอยู่กับพ่อผู้เป็นนักวิจัย ความกลัวของเขาก็คือ กลัวที่จะสูญเสียพ่อผู้เป็นที่รักเพียงหนึ่งเดียวของเขาไป ทำให้เขาไม่อยากห่างจากพ่อไปไหน แต่บางครั้ง เขาก็ต้องยอม เพราะพ่อต้องเดินทางไปยังศูนย์วิจัยกลางมหาสมุทรเพื่อทำงาน ครั้งนี้ก็เช่นกัน พ่อเขาออกจากฝั่งไปทำงานวิจัย ทิ้งให้เขาต้องอยู่บ้านคนเดียว แต่แล้วในระหว่างที่รอพ่อกลับมา เขาก็ได้พบกับ "มูฟี่" สิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดเข้า
เรื่องนี้เนื้อหาจะค่อนข้างเด็กกว่าอีกเรื่องนี้ ออกแนวไปทางวรรณกรรมเยาวชนเสียมากกว่า เป็นการผจญภัยเล็กๆ ของเด็กชายโอเชี่ยนในระหว่างที่พ่อไม่อยู่ เขาได้เจอกับเพื่อนใหม่ ได้เจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ได้แสดงความกล้าหาญและการเสียสละ เพื่อความรักที่ยิ่ิงใหญ่
ภาพมีทั้งสีและขาวดำ แต่เน้นไปทางขาวดำมากกว่า เนื้อเรื่องฟังดูเหมือนจะเน้นหนักผจญภัยเปิดหูเปิดตา แต่เรารู้สึกว่า เนื้อเรื่องมันมีเจือๆ ความเศร้าอยู่กลายๆ อะ เหมือนทุกเหตุการณ์ที่ตัวละครพบเจอมีแต่เรื่องของการสูญเสียทั้งนั้น
สรุปคือ อ่านได้เรื่อยๆ สำหรับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกประทับใจอะไรเป็นพิเศษ
...more
|
Notes are private!
|
|
1
| | |
Apr 27, 2021
| |
Paperback
| |
| | | | | 1843654377
| 9781843654377
| 1843654377
|
32
pp
| 4.34
| 172
| unknown
| Feb 06, 2020
|
really liked it
| |
"...แต่ต้นไม้ต้นสุดท้ายยังยืนต้นอยู่"
เรื่องราวของผองเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่เดินทางเพื่อหาที่อยู่อาศัยร่วมกัน จนได้พบป่าแห่งหนึ่ง พวกเขาตัดสินใจจะอยู่ที่นั
"...แต่ต้นไม้ต้นสุดท้ายยังยืนต้นอยู่"
เรื่องราวของผองเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่เดินทางเพื่อหาที่อยู่อาศัยร่วมกัน จนได้พบป่าแห่งหนึ่ง พวกเขาตัดสินใจจะอยู่ที่นั่น ทุกคนจึงเริ่มตัดต้นไม้รอบๆ มาสร้างถิ่นฐานของตน จนเหลือต้นไม้อยู่เพียงต้นเดียว ซึ่งเป็นต้นไม้ต้นสุดท้าย
เป็นผลงานของ Emily Haworth-Booth ผู้เขียน "พระราชาผู้สั่งห้ามความมืด" ค่ะ
แต่เล่มนี้เป็นปกอ่อนนะคะ หน้าปกตรงใบไม้นี่พอโดนแสงแล้วสะท้อนวิบวับๆ เลยค่ะ 5555
เนื้อเรื่องรอบนี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และความสัมพันธ์ของมนุษย์ด้วยกันเอง อ่านเล่มนี้แล้วมันไม่ได้ให้ความสนุกเร้าใจหรอก แต่จะเป็นแนวอ่านแล้วได้ข้อคิดแง่คิดมากกว่า
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางธรรมชาติที่กว้างใหญ่ และด้วยความที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคม จึงต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เหมือนในเรื่องที่ "ผองเพื่อน" ทั้งหลายเกาะกลุ่มกันแน่นและชักชวนกันตามหาสถานที่เหมาะๆ เพื่อสร้างบ้านเรือนอยู่อาศัยกัน จนกระทั่งไปเจอป่าแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ จึงตกลงปลงใจจะตั้งถิ่นฐานที่นี่
ในเริ่มแรกทุกคนก็ดูร่วมมือร่วมใจเพื่อสร้างอาณาเขตพักอาศัยของตัวเองอยู่หรอก แต่พอนานวันเข้า พอทุกอย่างเริ่มลงตัว ไร้อุปสรรคในการดำรงชีวิต ก็ต่างแยกย้ายกันอยู่แต่กับในครอบครัวของตัวเอง เกิดการสร้าง "กำแพง" ขึ้นมาขวางกั้น เหมือนปิดตายความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับคนอื่น คงเหลือแต่ความสัมพันธ์แต่คนในครอบครัวเท่านั้น จนเริ่มบาดหมางกันเอง และเริ่มเกิดการแย่งชิง "ต้นไม้ต้นสุดท้าย" ขึ้นมา...
สรุปคือ ยังคงประทับใจกับเนื้อเรื่องอยู่ดี แม้เล่มนี้จะเน้นหนักไปทางการตีความและให้แง่คิดมากกว่าเน้นเอาสนุกเร้าใจเหมือนเล่มก่อนหน้า ชอบความหมายแฝงที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อเรื่อง ชอบการลงสีของผู้เขียนที่พยายามสื่อความหมายอะไรบางอย่าง ชอบการให้ความสำคัญทั้งกับธรรมชาติและมนุษย์ด้วยกันเอง :)
...more
|
Notes are private!
|
|
1
| | |
Apr 24, 2021
| |
Paperback
| |
| | | | |
| 9786160451449
|
|
96
pp
| 4.22
| 257
| Oct 21, 2016
| Feb 2021
|
really liked it
| |
"จงเชื่อมั่นให้ถึงที่สุด แม้จะเหลือเพียงตัวคนเดียวก็ตาม"
เรื่องราวของ "ปูเปลล์" มนุษย์ขยะที่จู่ๆ ก็ถือกำเนิดขึ้นมาจากกองขยะ เขาออกมาเดินเตร็ดเตร่ปนเปไป
"จงเชื่อมั่นให้ถึงที่สุด แม้จะเหลือเพียงตัวคนเดียวก็ตาม"
เรื่องราวของ "ปูเปลล์" มนุษย์ขยะที่จู่ๆ ก็ถือกำเนิดขึ้นมาจากกองขยะ เขาออกมาเดินเตร็ดเตร่ปนเปไปกับผู้คนในเมืองปล่องควัน แต่ด้วยความที่ตัวเน่าเหม็นและร่างกายเต็มไปด้วยเศษขยะ ทำให้ชาวเมืองพากันรังเกียจและไม่ยุ่งกับเขา แต่แล้ววันหนึ่ง เขากลับพบกับ "ลูบิชชี" เด็กชายกำพร้าพ่อคนนึง ที่มีความเชื่อในเรื่องดาวดวงเหนือกลุ่มควันอย่างแรงกล้า จึงเกิดมิตรภาพท่ามกลางเมืองที่ปกคลุมไปด้วยควันดำขึ้้นมา
ภาพสวยมากกกกกก เป็นหนังสือนิทานปกอ่อน แต่กระดาษทั้งเล่มคือดีมาก ภาพก็สีสดมาก รายละเอียดภาพคือสูงมากๆ ตัวเล่มจริงนี่ สีเหลืองของแสงไฟในภาพเหมือนจะเรืองแสงออกมาจากภาพให้ได้เลย 55555
เล่มนี้เป็นนิทานภาพสองภาษาค่ะ เป็นภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ เล่าเรื่องมิตรภาพของมนุษย์ขยะและเด็กชายกำพร้าพ่อที่ต้องอาศัยอยู่ในเมืองปล่องควันที่ทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยควันดำขมุกขมัวหม่นหมองทั้งเรื่อง แต่ก็สว่างไสวและเจิดจ้าด้วยแสงไฟสีเหลืองนวล โดยทั้งสองต่างใช้ชีวิตท่ามกลางผู้คนที่ตัดสินแต่ภาพลักษณ์ภายนอก ต้องทนถูกดูถูกดูแคลนความเชื่อความศรัทธา แต่นั่นก็ไม่อาจทำให้มิตรภาพของทั้งสองสั่นคลอนไปได้
สนุกดีอยู่นะคะ ให้ข้อคิดดีสมกับเป็นนิทาน ภาพสวยเอามากๆ ตอนจบแม้จะไม่ได้เป็นอย่างที่คาดเท่าไหร่ แต่ก็ทำน้ำตาซึมเอาเรื่องเลยค่ะ 55555
...more
|
Notes are private!
|
|
1
| | |
Mar 12, 2021
| |
Paperback
| |
| | | | |
| 9786169258520
|
|
226
pp
| 4.35
| 272,067
| May 05, 2011
| Oct 05, 2016
|
it was amazing
| |
"ฉันไม่ได้มาเพื่อรักษาแม่เธอ ฉันมาเพื่อรักษาเธอต่างหากล่ะ" (หน้า 172)
เรื่องราวของ "คอร์เนอร์ โอ'มัลเลย์" เด็กชายที่อาศัยอยู่กับแม่ตามลำพัง ตั้งแต่แม่เ
"ฉันไม่ได้มาเพื่อรักษาแม่เธอ ฉันมาเพื่อรักษาเธอต่างหากล่ะ" (หน้า 172)
เรื่องราวของ "คอร์เนอร์ โอ'มัลเลย์" เด็กชายที่อาศัยอยู่กับแม่ตามลำพัง ตั้งแต่แม่เขาเริ่มมีอาการป่วยและเข้ารับการรักษา เขาก็เริ่มเห็นปีศาจตัวนั้น มันเป็นปีศาจที่ก้าวออกมาจากต้นยูข้างบ้านของเขา มันจะเดินตรงปรี่มาหาเขาทุกยามราตรีหลังเวลาเที่ยงคืนเล็กน้อยเสมอ เขาคิดว่ามันคือฝันร้ายธรรมดาๆ อืม.. ขอให้มันเป็นแค่ฝันร้ายธรรมดาๆ และขอให้เจ้าปีศาจตัวนั้นน่ากลัวเหมือนปีศาจตัวอื่นๆ ในฝันร้ายด้วยเถอะ
โอ้วววว นิยายเล่มนี้ไม่ได้มาจากกองดองค่ะ เราเพิ่งสั่งมาจากร้าน Merry-Go-Round ทาง Shopee เป็นเล่มสุดท้ายในร้านพอดี ซื้อมาเพราะอยากใช้ Coins ให้หมด แต่ไม่คิดเลยว่า หนังสือที่เลือกซื้ออย่างสิ้นคิดวันนั้นมันจะอิมแพคกับเรามากๆ ในวันนี้ 5555555
เห็นหน้าปกและเนื้อหาทั้งเล่มเป็นภาพขาวดำแล้ว เราก็ไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ คิดว่าเป็นแนวแฟนตาซี แนวฝันร้ายงุงิของเด็กชายคอร์เนอร์ แต่ที่ไหนได้ล่ะ.. อ่านไปแค่สิบหน้าแรก ถึงกับต้องวางหนังสือ แบบขอเบรคก่อน รู้สึกถึงกลิ่นอายความดาร์คความดราม่าลอยออกมาจากตัวอักษรเลยค่ะ
ใช่ค่ะ เล่มนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชน(?)สายดราม่าดาร์คแฟนตาซีค่ะ เป็นหนังสือที่บอกเล่าถึงความเจ็บปวด การสูญเสีย การจากลา และความตาย เป็นเรื่องชีวิตของเด็กชายคอร์เนอร์ที่กำลังเผชิญกับเหตุการณ์บางอย่างที่เขา.. ไม่พอใจเอาเสียเลย ทั้งเรื่องที่บ้านและเรื่องที่โรงเรียน มีแต่ความโกรธเคือง มีแต่ความเกรี้ยวกราด และเจ้าปีศาจต้นยูที่โผล่มาทุกคืนนั่นก็น่ารำคาญ! มารบกวนเวลานอน! มาชวนเขาคุยไม่รู้จักเวล่ำเวลา! มานั่งเล่าเรื่องอะไรก็ไม่รู้! น่าหงุดหงิดไปหมด!
เด็กชายคอร์เนอร์กระฟัดกระเฟี้ยดทั้งเรื่องเลยค่ะ ขุ่นเคืองหม่นหมองใจ ใครทำอะไรก็ดูขวางหูขวางตาไปเสียหมด แต่นั่นเป็นเพราะเขากำลังเผชิญกับเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ใจเขาไม่อยากยอมรับ เหมือนอยู่ในสภาวะที่จัดการกับความรู้สึกของตัวเองไม่ถูก และเจ้าปีศาจต้นยูนั่นแหละที่จะเป็นผู้ผลักดันให้เขาได้เรียนรู้ ได้เติบโต และกล้าเผชิญหน้ากับความจริงอย่างจริงจังเสียที
เราชอบเนื้อเรื่องและสิ่งที่ได้จากการอ่านเล่มนี้มากๆ เหมือนจะอ่านง่าย แต่ก็ไม่ได้ง่าย เหมือนจะเข้าใจ แต่เหมือนจะมีเรื่องให้คิดต่อ ความจริงที่คอร์เนอร์ต้องการยอมรับคืออะไรกันแน่ และเจ้าปีศาจตัวนั้นที่โผล่มาในยามวิกาลคือตัวแทนของอะไร และเรื่องเล่าต่างๆ ของเจ้าปีศาจมีอะไรซ้อนเร้นมากกว่าที่เห็นหรือไม่ ทุกอย่างทุกประเด็นมีแต่เรื่องให้ขบคิดทั้งนั้น แม้ตอนจบจะเดาไม่ยากเท่าไหร่ แต่เป็นหนังสือที่ดีจริงๆ ค่ะ :)
...more
|
Notes are private!
|
|
1
| | |
Mar 04, 2021
| |
Paperback
| |
| | | | | 9786169348
| 9786169348702
|
|
224
pp
| 4.30
| 344
| 2020
| Feb 2020
|
liked it
| |
"เพราะกระสุนนัดเดียวนั้นเอง ที่ทำให้เขาทั้งตาบอดและตาสว่างในคราวเดียวกัน"
เรื่องราวของ "นก" หนุ่มอุดรที่เข้ามาแสวงหาชีวิตทีดีในเมืองหลวง แต่ชีวิตของเขา
"เพราะกระสุนนัดเดียวนั้นเอง ที่ทำให้เขาทั้งตาบอดและตาสว่างในคราวเดียวกัน"
เรื่องราวของ "นก" หนุ่มอุดรที่เข้ามาแสวงหาชีวิตทีดีในเมืองหลวง แต่ชีวิตของเขากลับขึ้นๆ ลงๆ แปรผันตามสภาพการเมืองอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จนวันนึงที่เขาเข้าไปผัวผันกับการชุมนุมทางการเมือง และเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น ทำให้เขาตามืดบอดลงมองไม่เห็นอนาคต แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ตาสว่างและเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างขึ้นมาทันที
เล่มนี้เป็นหนังสือเล่มใหญ่และหนา (และหนักมาก 5555) เป็นหนังสือที่เราไปเจอเข้าโดยบังเอิญที่ร้านหนังสือ ซื้อมาปุ๊บ กลับบ้านก็แกะอ่านเลย อันที่จริง เล่มนี้เป็นหนังสือที่หลายคนพูดถึงบ่อยในช่วงที่ผ่านมานะ เป็นหนังสือในกระแสที่เห็นตามเพจหรือตามโซเชี่ยลต่างๆ ค่อนข้างถี่เลยล่ะ เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เราซื้อเล่มนี้มาอ่านเลยโดยที่ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าเนื้อหาในเล่มเป็นยังไง
เล่มนี้เป็นนิยายภาพ (Graphic Novel) ค่ะ ค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับเรา เพราะถ้าไม่เห็นคำอธิบายว่าหนังสือเล่มนี้ว่าเป็น "นิยายภาพ" เราจะคิดว่ามันคือหนังสือการ์ตูนธรรมดาๆ ที่การจัดเรียงภาพสวยแหวกแนวต่างจากการ์ตูนเล่มปกติที่คุ้นเคย ลองเสิร์ชหาความหมายของนิยายภาพดูแล้ว ขอสารภาพตามตรงว่า เรายังแยกความแตกต่างอย่างชัดเจนของนิยายภาพและหนังสือการ์ตูนไม่ออกเท่าไหร่ 5555 แต่เท่าที่ค้นดู รู้สึกว่า นิยายภาพจะเป็นการเล่าเรื่องที่ใช้ตัวอักษรนำแต่มีภาพประกอบการบรรยาย ส่วนหนังสือการ์ตูนจะเป็นการใช้ภาพวาดในการเล่าเรื่องโดยมีตัวอักษรประกอบแทน อืมมมม..
เอาล่ะ เข้าเรื่องดีกว่า!
พออ่านเล่มนี้จบก็รู้สึกว่า คำว่า "ตาสว่าง" ที่เป็นชื่อหนังสือ น่าจะไม่ใช่ตาสว่างแบบที่หลายคน(รวมถึงเรา)เข้าใจ แต่เป็นตาสว่างในรูปแบบเฉพาะที่ "นก" ตัวละครของเรื่องเป็นคนพบเจอมากกว่า ตาสว่างในเรื่องไม่ใช่การตื่นรู้จากการถูกกดขี่จากอำนาจเหนือหรือการตื่นรู้ถึงสิทธิเสรีภาพที่ตัวเองพึงมีในฐานะมนุษยชน แต่เป็นตาสว่างของนายนกที่เพิ่งเข้าใจว่าตัวเองเป็น "ใคร" และมีบทบาทอย่างไรต่อการเมืองไทยมากกว่า
สถานการณ์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่อง อ่านแล้วก็นึกภาพตามและเข้าใจได้เลย เพราะฉากหลังของเรื่องจะเป็นเมืองไทยช่วงกลางๆ ทศวรรษ 2520 ยาวเรื่อยมาจนถึงช่วงปี 2554 ที่มีการเลือกตั้งใหม่ แต่ภาพการเมืองนั้นไกลเหลือเกิน การกล่าวถึงการเมืองค่อนข้างผิวเผินและไม่เข้มข้นเท่าไหร่ เพราะหนังสือเล่มนี้โฟกัสไปที่ชีวิตของนายนก หนุ่มต่างจังหวัดที่เข้ามาหาชีวิตดีๆ ในเมืองหลวงมากกว่า คือโฟกัสไปที่ชีวิตของปัจเจกชน เล่าเรื่องราวชีวิตของปัจเจกชน สิ่งที่เขาเจอสิ่งที่เขาเผชิญ ปัญหาส่วนตัว เรื่องงานเรื่องครอบครัว โดยมีการเมืองที่ไกลลิบลับนั่นเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดชะตาและความขึ้นลงของชีวิตนายนกคนนี้ แต่นั่นก็สะท้อนให้พวกเราเห็นว่า "การเมืองอยู่รอบตัวพวกเรา" จริงๆ และมันก็สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตพวกเราทุกคนได้อย่างที่เราคาดไม่ถึง
โดยสรุปคือ เป็นหนังสือการเมือง ที่ไม่ค่อยการเมืองเท่าไหร่ ไม่ได้วิเคราะห์วิจารณ์การเมืองไทยอย่างเข้มข้นแต่เป็นแค่ฉากหลังที่ทำให้นายนกตาสว่างหลังจากหลงอยู่ในเมืองกรุงมานานเท่านั้นเอง
...more
|
Notes are private!
|
|
1
| | |
Dec 18, 2020
| |
Paperback
| |
| | | | |
| 9786165725125
|
|
200
pp
| 3.50
| 14
| unknown
| Oct 2020
|
liked it
| |
"เมฆแบบไหนกัน ที่เธอจะยอมจมอยู่กับมันทั้งวัน?"
เรื่องราวของ "จูน" เจ้าของฉายา "สาวเมฆมืด" ผู้มีเจ้าก้อนเมฆประหลาดลอยอยู่เหนือหัว ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนหรื
"เมฆแบบไหนกัน ที่เธอจะยอมจมอยู่กับมันทั้งวัน?"
เรื่องราวของ "จูน" เจ้าของฉายา "สาวเมฆมืด" ผู้มีเจ้าก้อนเมฆประหลาดลอยอยู่เหนือหัว ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนหรือทำอะไร ทุกคนก็ต่างพากันให้ความสนใจกับเธอ ทำให้ชีวิตประจำของเธอถูกจับตามองตลอดเวลาและเต็มไปด้วยความยากลำบากจนเธอรู้สึกท้อแท้และอยากกำจัดก้อนเมฆนี่ทิ้งไปซะ จนกระทั่งวันนึง วันที่เธอเหลืออด อารมณ์ที่รุนแรงของเธอทำให้เกิดพายุฝนกระหน่ำขึ้นกลางเมือง และสายลมสายน้ำไปพัดพาเธอขึ้นไปท้องฟ้า พาเธอขึ้นไปสู่ดินแดนใหม่ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน "ดินแดนเมฆ" นั่นเอง
เล่มนี้เป็นเรื่องยาวค่ะ สนุกอยู่ๆ ผู้เขียนยังคงคอนเซปเรื่องแนวเดิม ก็คือ แฟนตาซีผจญภัย ที่แฝงข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ พร้อมภาพประกอบเรื่องน่ารักๆ 5555
แต่มาเล่มนี้ รู้สึกว่า เนื้อเรื่องช่วงต้นๆ ค่อนข้างสมจริงมากกว่าผลงานอีกสองเล่มที่เราเคยอ่าน (เรื่องเล่าจากดาวอื่น และ ทานตะวันบนดวงจันทร์) คือ ค่อนข้างอยู่กับความเป็นจริงมากกว่า โดยเฉพาะตัวละครจูน และสภาพแวดล้อมที่เธอเจอ ถึงจะมีเรื่องของก้อนเมฆประหลาด แต่ก็รู้สึกว่าบรรยากาศเรื่องช่วงต้นมีความใกล้เคียงกับชีวิตจริงที่พวกเราทุกคนพบเจออยู่ดี อืมมม.. ไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะการเติบโตจากวัยเด็กเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ทำให้การมองโลกเริ่มหม่นหมองลงเหมือนที่จูนรู้สึกด้วยรึเปล่า เราก็เลยอินกับช่วงแรกๆ เป็นพิเศษ 55555
แต่พอกลางเรื่องเป็นต้นไป ก็กลับสู่โหมดแฟนตาซีผจญภัยแบบเต็มตัว แทบจะพูดได้ว่า โทนเรื่องเปลี่ยนฉับพลันเลยก็ว่าได้ 5555 จากความหม่นหมองท้อแท้ที่จูนนำพามาช่วงต้นเรื่อง เปลี่ยนเป็นความสดใสร่าเริง เต็มไปด้วยความกล้าหาญและอยากรู้อยากเห็น มีการต่อสู้กันระหว่างฝ่ายดีฝ่ายร้าย มีอุปสรรคปัญหาต่างๆ ให้ฝ่าฟัน แล้วจบลงด้วยสถานการณ์ที่คลี่คลายพร้อมกับข้อคิดนิดหน่อยตามสไตล์
สำหรับเรา เรามองว่า เรื่องนี้สนุกดี เนื้อเรื่องมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมานิดหน่อยเมื่อเทียบกับผลงานก่อนๆ แต่ยังอยู่ในโซนของวัยรุ่นที่ยังไม่ก้าวผ่านไปเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว แต่โดยภาพรวมแล้ว เล่มนี้เนื้อเรื่องคือ สูตรสำเร็จของแนวแฟนตาซีผจญภัยอะ คือเป็นเรื่องราวของเด็กคนหนึ่งที่อ่อนด้อยกว่าคนอื่นในโลกนึง แต่ไปโดดเด่นและสร้างความน่าประทับใจในอีกโลกนึง ก่อนจะปิดท้ายเรื่องด้วยการกระตุ้นให้เรามองหาข้อดีในตัวเองและการปรับตัวให้อยู่กับข้อเสียในตัวเองให้ได้
...more
|
Notes are private!
|
|
1
| | |
Dec 16, 2020
| |
Paperback
| |
| | | | | 1974713008
| 9781974713004
| 1974713008
|
150
pp
| 4.70
| 1,466
| Mar 20, 2019
| Apr 21, 2020
|
liked it
| |
หนังสือเล่มนี้เหมาะกับนักอ่านสายสะสมขนานแท้เลยค่ะ
ตัวเล่มใหญ่มากกกกกก และหนักมากกกกกด้วยเช่นกัน 55555 ส่วนกล่องใส่หนังสือเป็นแบบไม้อัดสกรีนตัวอักษรสีเท
หนังสือเล่มนี้เหมาะกับนักอ่านสายสะสมขนานแท้เลยค่ะ
ตัวเล่มใหญ่มากกกกกก และหนักมากกกกกด้วยเช่นกัน 55555 ส่วนกล่องใส่หนังสือเป็นแบบไม้อัดสกรีนตัวอักษรสีเทาแววๆ พร้อมกระดาษรองหนังสือด้านในอย่างดีค่ะ (กล่องจะมีแค่เฉพาะที่ซื้อกับสำนักพิมพ์ luckpim นะคะ ถ้าเป็นเล่มภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่นต้นฉบับเลยจะมีแต่ตัวเล่มเปล่าๆ ไม่มีกล่องใส่ค่ะ)
ส่วนในเล่มจะอัดแน่นไปด้วยภาพวาดผลงานของอาจารย์จุนจิค่ะ ทั้งภาพสีและภาพขาวดำสลับกันไปค่ะ (ก็หนังสือรวมภาพวาดนี่เนอะ 5555) เรารู้สึกว่าตัวกระดาษจะใช้ไม่เหมือนกันด้วยนะคะ แต่ถือว่าดี เพราะหมึกไม่เลอะใส่มือตอนเปิดอ่าน ภาพก็ขยายใหญ่มากๆ มากกว่ามังงะฉบับบิ๊กไซส์เยอะเลยค่ะ
ท้ายเล่มจะมีเหมือนดัชนีภาพวาดทั้งหลาย พร้อมคำอธิบายประกอบภาพ และมีบทสัมภาษณ์นิดหน่อยของอาจารย์จุนจิ อิโต้ เกี่ยวกับเทคนิคการวาดการ์ตูนสยองขวัญ ก่อนจะปิดท้ายด้วยคำลงท้ายของอาจารย์เองค่ะ
...more
|
Notes are private!
|
|
1
| | |
Apr 17, 2020
| |
Hardcover
| |
| | | | |
| 9786164782662
|
|
111
pp
| 4.00
| 1
| unknown
| 2018
|
really liked it
| |
และนี่คือเล่มสุดท้ายของเซ็ทโปรโควิทที่เราจะรีวิวค่ะ!
เล่มนี้ึคือผลงานเล่มล่าสุดของคุณเต้ย (ปี 2018) เป็นหนังสือที่อัดแน่นไปด้วยภาพวาดสีน้ำรายละเอียดสูง
และนี่คือเล่มสุดท้ายของเซ็ทโปรโควิทที่เราจะรีวิวค่ะ!
เล่มนี้ึคือผลงานเล่มล่าสุดของคุณเต้ย (ปี 2018) เป็นหนังสือที่อัดแน่นไปด้วยภาพวาดสีน้ำรายละเอียดสูงกลิ่นอายบรรยากาศบ้านเมืองแบบญี่ปุ่นๆ พร้อมสตอร์รี่การผจญภัยสุดวายป่วงของตัวละครในเรื่อง
"นิธิ" สถาปนิกหนุ่มที่ยอมลาออกจากงานที่ทำอยู่ และออกเดินทางมาประเทศญี่ปุ่นเพื่อท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ที่ปรากฎใน Instragram ของคนๆ หนึ่งที่เขาพบเข้าโดยบังเอิญ และเขาก็ต้องตกใจมากเมื่อรู้ว่า เจ้าของไอจีนั่นคือ "โกโบะ" เจ้ากบตัวเขียวพูดได้หลายภาษา โกโบะยอมอาสาเป็นไกด์นำเที่ยวให้นิธิ แต่ดูเหมือนจะมีสถานที่แห่งหนึ่งที่โกโบะไม่ยอมพานิธิไปสักที นั่นก็คือ "ชุมชนหัวปลา"
เล่มนี้สนุกค่ะ จะค่อนข้างต่างจากเล่ม "Artbook Dairy" และ "ฤดูสีน้ำที่คันไซ" เพราะมันเป็นหนังสือภาพประกอบเรื่องเล่า และเนื้อเรื่องก็สนุกมากกกก มีความผจญภัยและคอมเมดี้ปนๆ กันไป เนื้อเรื่องจะค่อยๆ หลุดจากโลกแห่งความเป็นจริงเรื่อยๆ ไปอยู่อีกโลกนึง ซึ่งก็คือ โลกของชุมชนหัวปลา นอกจากจะได้เห็นภาพสีน้ำสวยๆ สไตล์คุณเต้ยแล้ว ยังได้เห็นการดีไซส์ตัวละครใหม่ๆ ในชุมชนหัวปลาอีก น่ารักและแปลกตามากค่ะ พวกมนุษย์หัวปลาทั้งหลายน่ารักมากๆ เจ้าโกโบะกบเขียวก็น่ารักเช่นกัน 55555
เรารู้สึกว่าเล่มนี้เหมือนนิทานอะ เป็นนิทานที่ภาพสวยเนื้อเรื่องก็สนุกไม่น่าเบื่อ
เห็นว่าจะมีเล่มต่อไปด้วยนะคะ จะรอติดตามค่ะ :)
...more
|
Notes are private!
|
|
2
| | |
Apr 05, 2020
| |
Hardcover
| |
| | | | |
| 9786163948748
|
|
161
pp
| 3.00
| 2
| unknown
| 2015
|
liked it
| |
เล่มนี้เป็นเล่มที่สองในเซ็ทโปรโควิทที่เราจะหยิบมารีวิวค่ะ มีความหนาและหนักกว่าอีกสองเล่มมาก แต่ทำเล่มก็ทำดีมากเช่นกัน เป็นหนังสือปกแข็งอย่างดีเลยค่ะ
ขอ
เล่มนี้เป็นเล่มที่สองในเซ็ทโปรโควิทที่เราจะหยิบมารีวิวค่ะ มีความหนาและหนักกว่าอีกสองเล่มมาก แต่ทำเล่มก็ทำดีมากเช่นกัน เป็นหนังสือปกแข็งอย่างดีเลยค่ะ
ขอบอกก่อนว่า เราไม่เคยอ่านเล่ม 1 เพราะมัวแต่เอ้อระเหยลอยชายไม่ซื้อสักที แต่ดันมาซื้อเล่ม 2 ก่อนซะงั้น แต่ถึงไม่อ่านเล่มแรกก็ไม่เป็นไรนะคะ เพราะอ่านเล่มสองก็รู้เรื่องเหมือนกัน
หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือรวมภาพของจริงเลยค่ะ มันคือ Artbook Diary ของคุณเต้ยจริงๆ เหมือนหนังสือสะสมภาพในชีวิตประจำวันว่าคุณเต้ยเค้าวาดอะไรไปบ้าง ซึ่งก็จะมีภาพวาดสวยๆ หลายๆ สไตล์ในเล่มพร้อมคำอธิบายที่มาที่ไปประกอบภาพเล็กน้อย ซึ่งมีคำอธิบายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (เลอค่ามากค่ะ ไว้ฝึกภาษาได้เลย 5555)
ใครที่ชื่นชอบผลงานของคุณเต้ย เล่มนี้เหมาะแก่การสะสมมากค่ะ :)
ปล. ไว้ถ้าเรามีโอกาสได้อ่านเล่ม 1 จะหยิบมารีวิวนะคะ
...more
|
Notes are private!
|
|
1
| | |
Apr 02, 2020
| |
Hardcover
| |
| | | | |
| 9786164291560
|
|
128
pp
| 4.50
| 6
| unknown
| 2017
|
really liked it
| |
เราตามผลงานคุณเต้ยผ่านทางเพจของเขามานานมาก กดไลค์กดแชร์ไปเรื่อยเสมอ จนกระทั่งเราได้มีโอกาสอุดหนุนผลงานของคุณเต้ยอย่างจริงจัง ซึ่งเราซื้อมาทั้งหมด 3 เล
เราตามผลงานคุณเต้ยผ่านทางเพจของเขามานานมาก กดไลค์กดแชร์ไปเรื่อยเสมอ จนกระทั่งเราได้มีโอกาสอุดหนุนผลงานของคุณเต้ยอย่างจริงจัง ซึ่งเราซื้อมาทั้งหมด 3 เล่ม (ด้วยโปรโควิท) และเล่มนี้เป็นเล่มแรกที่เราจะรีวิวค่ะ :)
เห็นชื่อเรื่อง Animatoey Watercolor in Kansai ฤดูสีน้ำที่คันไซ อยากจะบอกว่า หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือนำเที่ยวเมืองคันไซนะคะ (เพราะตอนแรกเราเข้าใจแบบนั้น 5555) แต่เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องราวการจัดนิทรรศการภาพสีน้ำของคุณเต้ยที่คันไซ โดยมีภาพวาดสีน้ำของคุณเต้ยประกอบเนื้อเรื่องทั้งเล่ม ซึ่งตัวเล่มค่อนข้างใหญ่ และหนักนิดหน่อย แต่เป็นภาพสี(และสด)ทั้งเล่ม
ในส่วนของเนื้อเรื่อง จะเริ่มเล่าตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการจัดนิทรรศการภาพวาดสีน้ำที่ไม่คาดฝัน การตระเวนหาสถานที่ต่างๆ ในชุมชนเพื่อนำมาวาด และปิดท้ายด้วยบรรยากาศการจัดนิทรรศการในวันจริง มีความคล้ายกับไดอารี่บันทึกการเดินทางขนาดสั้น มีทั้งเรื่องของการทำงานวาดภาพและการพาไปรู้จักสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงอาหารและผู้คนที่คุณเต้ยพบเจอ
ส่วนภาพวาดนั้น คุณเต้ยเค้าเป็นคนมีฝีมือสุดยอดอยู่แล้วล่ะ 5555 ส่วนมากจะเป็นภาพสถานที่ต่างๆ ในชุมชนโบราณที่ลงรายละเอียดภาพแบบขั้นสุด มีภาพผู้คนที่คุณเต้ยพบเจอแทรกเป็นระยะๆ ภาพอาหารแทรกเป็นหย่อมๆ รวมถึงบรรดาตัวการ์ตูนน่ารักๆ หรือแปลกๆ ที่แทรกตามภาพสถานที่ต่างๆ ซึ่งเราชอบนะ คือมันเหมือนทำให้ภาพเหล่านั้นไม่ได้ดูจริงจังเกินไป อยู่ระหว่างความสมจริงกับจินตนาการ มันคือสเน่ห์ของภาพคุณเต้ยเลยอะ
โดยรวมแล้ว เราชอบทั้งเนื้อเรื่องและภาพวาดเลยค่ะ ชอบหมดทุกอย่างที่เป็นเล่มนี้ ค่อนข้างประทับใจเลยทีเดียว คุ้มค่าที่ซื้อมา 555555
**ขอย้ำอีกครั้งนะคะ** หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือนำเที่ยวเมืองคันไซ
แต่อ่านจบแล้วอาจทำให้คุณอยากไปเที่ยวเมืองคันไซขึ้นมาก็ได้ค่ะ :)
...more
|
Notes are private!
|
|
1
| | |
Apr 02, 2020
| |
| |
| | | | | 6164854994
| 9786164854994
|
|
208
pp
| 3.68
| 50
| unknown
| Mar 01, 2019
|
really liked it
| |
"เพื่อพิสูจน์ตัวเอง เด็กน้อยเลยต้องเดินทาง"
เรื่องราวของ "นีโอ" พ่อมดน้อยฝึกหัด กับ "แฮม" เจ้าหมาอ้วนคู่หูของเขา ที่ต้องเดินทางเพื่อทำตามหาความฝันที่เป
"เพื่อพิสูจน์ตัวเอง เด็กน้อยเลยต้องเดินทาง"
เรื่องราวของ "นีโอ" พ่อมดน้อยฝึกหัด กับ "แฮม" เจ้าหมาอ้วนคู่หูของเขา ที่ต้องเดินทางเพื่อทำตามหาความฝันที่เป็นจริง แต่การจะเป็นพ่อมดที่สมบูรณ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะระหว่างการผจญภัย นีโอและแฮมต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคและปัญหาต่างๆ มากมาย
บอกตามตรงว่าเดาไม่ออกว่าหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับอะไร ทั้งชื่อเรื่อง ทั้งคำโปรยปกหลัง ก็ยังเดาไม่ออก แต่ก็ซื้อมาอ่านเพราะมีคนแนะนำ 55555
หนังสือเล่มนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่มีภาพประกอบเนื้อเรื่อง อ่านแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอ่านนิทานขนาดยาว เนื้อเรื่องออกแนวผจญภัยและการค้นพบโลกใหม่และพบเจอสิ่งใหม่ๆ ตัวละครหลักอย่าง "นีโอ" ก็เป็นเด็กชายที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความฝัน เขากับเจ้าแฮมหมาอ้วน จะพาเราเดินทางไปสู่หนทางแห่งการเป็นพ่อมดที่สมบูรณ์แบบ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าการเดินทางเพื่อตามความฝันนั้นมันมีอันตรายอะไรรออยู่
ถ้ามองเผินๆ เหมือนเรื่องราวของเด็กน้อยผจญภัยธรรมดาๆ แต่ความจริง เนื้อเรื่องกลับแฝงข้อคิดและคติธรรม รวมถึงข้อความเชิงสัญลักษณ์เอาไว้เพียบ เพื่อให้คนอ่านอย่างเราๆ ได้ตีความและกลับมาทบทวนตัวเองโดยมีนีโอเป็นคนนำทาง มีการเปรียบเปรยถึงความไม่เป็นดั่งใจที่คนเราต้องเจอ ความโหดร้ายของโลกใบนี้ และคนที่ร้ายกาจที่สุดอาจจะไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเอง ถือเป็นอีกเล่มที่ดีและน่าสนใจนะคะ :)
แต่ "ทานตะวันบนดวงจันทร์" คืออะไร
แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับการผจญภัยครั้งนี้ คงต้องไปลองค้นหาดูกันนะคะ :)
...more
|
Notes are private!
|
|
1
| | |
Jun 26, 2019
| |
Paperback
| |
| | | | |
| 9786164781719
|
|
176
pp
| 3.89
| 64
| Oct 11, 2018
| Oct 2018
|
liked it
| |
เป็นหนังสือรวมเรื่องเล่า 3 เรื่อง จากดวงดาว 3 ดวง และเราในฐานะผู้อ่าน ก็เป็นผู้ได้รับรู้เรื่องราวของดาวดวงอื่นที่เปรียบเสมือนเป็นโลกคู่ขนานในจักรวาลเด
เป็นหนังสือรวมเรื่องเล่า 3 เรื่อง จากดวงดาว 3 ดวง และเราในฐานะผู้อ่าน ก็เป็นผู้ได้รับรู้เรื่องราวของดาวดวงอื่นที่เปรียบเสมือนเป็นโลกคู่ขนานในจักรวาลเดียวกันของเราเอง (แฮร่! คอนเซปหนังสือเค้าน่ารักนะ 555)
เรื่องเล่าแรก Robot City : เพราะการเติมเต็มพลังงาน หรือจะสำคัญสู้การเติมเต็มพลังใจเรื่องราวของหุ่นยนต์ตัวนึงที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่จัดการเอกสารโดยเฉพาะ ซึ่งพอพลังงานหมดเมื่อไหร่ก็หาเติมในเมืองแห่งหุ่นยนต์ได้ตลอด แต่กลับไม่มีแหล่งให้พลังใจ ภารกิจการออกตามหาต้นไม้ซึ่งเจ้าหุ่นยนต์เชื่อว่ามันคือแหล่งให้พลังใจจึงเริ่มต้นขึ้น
เรื่องเล่าที่สอง The Lover : เพราะความรักเป็นพลังที่ทรงคุณค่าเรื่องราวของดาวดวงหนึ่ง ที่ประชากรชายครองคู่กับประชากรชายด้วยกันเพื่อปกครองบ้านเมือง ส่วนประชากรหญิงก็จะครองคู่กับประชากรหญิงและทำหน้าที่ด้านการทหาร ไม่มีใครสามารถเล็ดลอดหรือแหกกฎที่เข้มงวดนี้ไปได้ โดยหารู้ไม่ว่า ณ หอคอยร้างแห่งแสงสว่าง มีความรักของหญิงชายคู่หนึ่งได้ก่อตัวขึ้น
เรื่องเล่าที่สาม Blue Time : เพราะคนที่อยู่เคียงข้างเธอตลอดก็คือตัวเธอเองเรื่องราวของหญิงสาวอมทุกข์ที่ไม่สามารถดึงตัวเองออกมาจากปัญหารอบกายได้ เธอค่อยๆ จมดิ่งสู่ความมืดมิดและตื่นขึ้นมาอีกครั้งบนเรือที่ลอยคว้างอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรกว้างใหญ่อย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพัง ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครเลย นอกจากเงาสะท้อนของเธอเองจากผิวน้ำ
เราเคยอ่านผลงานของ Atompakon ผลงานแรก ก็คือ "ทานตะวันบนดวงจันทร์" เพราะมีลูกเพจแนะนำให้อ่าน เราประทับใจก็เลยย้อนไล่ตามผลงานเล่มอื่นๆ ของเขา แล้วมาเจอเข้ากับ "เรื่องเล่าจากดาวอื่น" เล่มนี้ ซึ่งเล่มที่เราซื้อมาอ่านเป็นหน้าปกแบบใหม่แล้ว
ยังคงความประทับใจเหมือนเดิมกับการเล่าเรื่องแนวแฟนตาซีกึ่งๆ นิทานภาพของผู้เขียนค่ะ เป็นเรื่องเล่าสั้นๆ อ่านง่าย ย่อยง่าย ภาพประกอบสวยและน่ารักมากกก โดยเฉพาะเจ้าหุ่นยนต์เรื่องแรก ชอบมากเลยค่ะ 5555 เนื้อเรื่องก็เป็นการสะท้อนปัญหาในเชิงสังคมและปัจเจกได้เป็นอย่างดี อ่านรู้สึกเหมือนได้เติมเต็มพลังยังไงไม่รู้ คืออ่านเรื่องย่อที่เราย่อแต่ละเรื่องเหมือนจะเน้นดราม่า แต่เชื่อเรา มันไม่ดราม่าเลย แต่อ่านแล้วได้รับกำลังใจมากกว่า รู้สึกมองโลกในแง่ดีขึ้นมาเลยค่ะ 5555
ปล. บังเอิญว่า วันที่หยิบเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน(ซึ่งเป็นคนละวันกับวันที่เราเขียนรีวิว) เป็นวันที่เราท้อแท้พอดี พออ่านเล่มนี้จบเหมือนได้ฮีลตัวเอง เหมือนฟื้นขึ้นมามีชีวิตอีกครั้งคล้ายๆ กับเรื่องเล่าที่สาม Blue Time เลยค่ะ ขอบคุณผู้เขียนมากๆ :)
...more
|
Notes are private!
|
|
1
| | |
Jun 26, 2019
| |
Paperback
| |
Loading...
